9 แข้งระดับโลก ผู้ซึ่งสปีดเร็วกว่านรก

9. มิชาเอล บัลลัค

 

มิชาเอล บัลลัค คือชายผู้ที่มีอาถรรพ์ติดตัวว่าเป็นตัวกวาดรองแชมป์ เพราะเขามักจะพาทีม
ต้นสังกัดหรือทีมชาติทะลุเข้าชิงฟุตบอลถ้วยแต่ก็ต้องพ่ายตลอด

แต่หากตัดเรื่องนี้ออกไป ต้องบอกเลยว่า บัลลัค คือผู้เล่นที่มีฝีเท้าอยู่ในระดับโลกอย่างแท้จริง 

ด้วยรูปแบบการเล่นของมิดฟิลด์ตัวตัดเกมที่มีการอ่านทางบอลดีเยี่ยม เชิงบอลสูง ทำได้ดีทั้งรุกและรับ
รวมถึงการจ่ายบอลและยิงประตู ที่เขาทำได้ดีทั้งเรื่องยิงไกล รวมถึงการโหม่งบอลที่ไม่แพ้กองหน้าคนไหนในโลก


8. ​อันเดรีย ปิร์โล

 

ชายผู้เปรียบเสมือนขุนศึกมือดี ที่มีมีความสามารถในการรบแบบทั้งบู๊และบุ๋นระดับเวิร์ลคลาสอยู่ในคนเดียวกัน
อย่าง ปิร์โล นั้นได้แสดงให้เห็นมาตลอดชีวิตค้าแข้งของเขาว่าความเร็วนั้นไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด

จอมทัพม้าลายผู้นี้คือผู้เล่นหัวแถวของโลกในเรื่องของการคุมจังหวะเกม การครองบอล จ่ายบอล วางบอลที่แม่นยำ 

รวมถึงมีลูกตั้งเตะทรงประสิทธิภาพ

หากมีใครสักคนเล่นได้อย่าง ปิร์โล แล้ว เขายังจะต้องการไปวิ่งแข่งกับใครอีก ? แน่นอนว่าไม่จำเป็นอีกต่อไป


7. ​อีบัน เด ลา เปญา

 

เด ลา เปญา อาจจะไม่ใช่นักเตะที่คอบอลนึกถึงเป็นคนแรก ๆ หากพูดชื่อ บาร์เซโลนา ออกมา และมีน้อย
คนนักที่จะรู้ว่าแท้จริงแล้ว มิดฟิลด์หัวโล้นคนนี้แหละคือหนึ่งในนักเตะผู้บุกเบิกรูปแบบ ติกิ-ตากา
ให้กลายเป็นซิกเนเจอร์ของทีมเจ้าบุญทุ่ม

เชื่อว่าคอบอลที่ดูบอลมาราว 15 ปีจะต้องมีหลายคนที่ชื่นชอบในลีลาการเล่นของ เด ลา เปญา อยู่ไม่น้อย 

เพราะเขาคือคนที่เล่นกับฟุตบอลได้คลาสสิกสุด ๆ แถมยังมีลูกจ่ายทะลุช่องอันคมกริบ
กับการลากทะลวงที่สวยงามเป็นอาวุธร้ายอีกด้วย

และช่วงเวลาที่อยู่ในถิ่นคัมป์นู เด ลา เปญา พาทีมได้แชมป์ลาลีกา กับ คัพ วินเนอร์ส คัพ สำเร็จก่อนที่
จะย้ายข้ามฟากไปอยู่กับ เอสปันญอล ในปี 2011


6. ​แมตส์ ฮุมเมิลส์

 

ขณะที่คนทั้งโลกยอมรับว่าเซ็นเตอร์หน้าหล่อคือหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดของโลกตอนนี้ แต่ก็ยังมีข้อกังขา
อยู่มากมายในเรื่องของความเร็ว โดยเฉพาะเมื่อเขาตกเป็นข่าวว่าจะย้ายมาเล่นในลีกที่ต้องใช้ความเร็ว
เป็นหลักอย่างพรีเมียร์ลีก

แต่ ฮุมเมิลส์ ก็แสดงให้เห็นมาตลอด เพราะไม่ว่าจะเป็นรายการฟุตบอลโลก ที่ต้องเจอกับนักเตะที่มีสไตล์แตกต่างกันออกไป
รวมถึง แชมเปียนส์ลีก ที่ต้องเจอกับทีมจากอังกฤษ หรือแม้แต่ในบุนเดสลีกาเอง ก็มีแข้งความเร็วสูงอยู่หลายคน

ฉะนั้นบอกได้คำเดียว ความสามารถในการอ่านเกม และเล่นเกมรับของ ฮุมเมิลส์ นั้นอยู่ในระดับที่สูงมากจนความเร็วทำอะไรไม่ได้ไปแล้ว


5. ฮวน โรมัน ริเกลเม

 

ริเกลเม เป็นหนี่งในจอมทัพหมายเลข 10 ที่มีคอบอลทั่วโลกให้ความศรัทธาเยอะมากราวกับเป็นศาสดา
แห่งโลกลูกหนังคนหนึ่งเลยก็ว่าได้

สไตล์การเล่นของ เขานั้นเป็นปฏิปักษ์กับความเร็วอย่างแท้จริง เพราะ ริเกลเม มักจะดึงบอลไว้กับตัวก่อนที่จะหา
จังหวะออกอย่างมีชั้นเชิง แถมยังมีลีลาการลากเลื้อยสุดแสนประทับใจ จนเคยได้รับรางวัลผู้เล่นที่มีความเป็นศิลปิน
มากที่สุดจาก มาร์ก้า มาแล้ว

แต่น่าเสียดายยิ่งที่เขาไม่สามารถประสบความสำเร็จกับยอดทีมอย่าง บาร์เซโลนา ได้ แต่เมื่อย้ายออกจากคัมป์นู
เขาก็ยังแสดงให้โลกเห็นอยู่ดีว่า ริเกลเม ยังไงก็คือ ริเกลเม วันยังค่ำ


4. ​อลัน เชียร์เรอร์

 

สไตรเกอร์ตีนโคตรหนักคนนี้ ได้รับการยกย่องอย่างสูงในวงการฟุตบอลอังกฤษ เพราะเขาคือกองหน้า
ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

ในยุคนี้กองหน้าอาจต้องการความเร็วเพื่อหาจังหวะเข้าทำ แต่กับเชียร์เรอร์นั้นไม่จำเป็น เขาสามารถหาช่องยิงจาก
ความว่างเปล่า และเปลี่ยนมันทั้งหมดให้กลายเป็นประตูได้ง่ายดายอย่างที่ไม่มีใครอยากเชื่อ

และอาวุธเด็ดของเขาก็คือ พลังในการยิงที่ใส่ไปให้จนเต็ม 99 แล้วยังรู้สึกว่าแรงไม่พอเลยด้วยซ้ำ
 

3. ​ซาบี เฮอร์นันเดซ

 

ซาบี นั้นไม่ต่างอะไรกับ ปิร์โล มากนัก เพราะเขาทั้งคู่เป็นหนึ่งในสองสุดยอดนักเตะจอมทัพที่ ใช้สามารถมันสมอง
บวกกับฝีเท้าอันฉกาจฉกรรจ์ คุมเกมของทีมให้อยู่ในความต้องการได้หมดจด

จอมทัพต่างดาวคนนี้ คือเบื้องหลังความสำเร็จของ บาร์เซโลนา มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่เขาก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวจริงในทีมชุดใหญ่

และถึงแม้ในช่วงแรกเขาจะถูกมองข้ามไปตลอด เพราะทีมมีดาวเด่นคนอื่นๆ อย่าง โรนัลดินโญ ที่เป็นตัวเรียกแขกอยู่ แต่เมื่อเหยินเล็ก
บอกว่า ซาบี คือชายผู้ปิดทองหลังพระตัวจริงเท่านั้นแหละ สปอร์ตไลท์ทุกดวงบนโลกฟุตบอลก็พร้อมสาดแสงเข้าหาเขาทันที

2. ​ฟรานเชสโก ต็อตติ

 

ในโลกนี้มีน้อยคนนักที่จะยังสามารถเล่นฟุตบอลบนลีกสูงสุดได้แบบเป็นตัวจริงต่อเนื่องทั้งที่มีอายุ 38 ปีแล้ว
แต่ ต็อตติ คนนี้ทำได้

นับตั้งแต่เขาก้าวขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ตอนอายุ 17 จนตอนนี้ 38 เขาก็เป็นหัวใจสำคัญของทีมมาโดยตลอด
แถมยังไม่เคยมีวันไหนที่ฟอร์มของเขาตกลงไปอีกต่างหาก

ด้วยรูปแบบการเล่นที่เน้นครอบบอลเหนียว มีลีลาเด็ดแพรวพราว ทั้งการเลี้ยงการจ่ายแถมยังมีท่าไม้ตายคือส่งบอล
ด้วยการดีดลูกส้น กับลูกชิพข้ามตัวผู้รักษาประตู ครบเครื่องแบบนี้แล้วยังจะไปวิ่งควบให้เสียแรงเปล่า ๆ ทำไม


1. จอห์น เทอร์รี

 

กัปตันหัวใจเพชรของเชลซี คนนี้ คือหนึ่งในผู้เล่นที่ดูแล้วเหมือนเขาจะเน้นเดินมากกว่าวิ่งเวลาอยู่ในสนาม
แต่กลับเป็นผู้เล่นกองหลังที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในโลกคนหนึ่งเลยทีเดียว

ปัจจุบัน เทอร์รี มีอายุ 34 แล้ว สปีดที่เคยช้าอยู่แล้วก็ย่อมตกลงไปอีก แต่เขาก็ยังคงเล่นเกมรับให้ทีมต้นสังกัดได้อย่างยอดเยี่ยม
ด้วยการเข้าปะทะที่แข็งแกร่ง รวมถึงการอ่านทางบอลและเล่นลูกกลางอากาศได้ดี

และเมื่อดูจากพละกำลังและความมุ่งมั่นตั้งใจที่กัปตันจอห์นมักแสดงออกมาให้เห็นอยู่ตลอดเวลาแล้ว เชื่อเลยว่าเขาจะยัง
โลดแล่นอยู่บนลีกสูงสุดแบบนี้ได้อีกราว 2 ปีเป็นอย่างน้อย