"เรามองว่าการพัฒนาผู้ตัดสิน เราโฟกัสที่สมรรถภาพทางร่างกาย เกมการแข่งขันเป็นไปอย่างรวดเร็ว ผู้ตัดสินต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดของทั้งตนเองและผู้อื่น ในเกมการแข่งขันระดับเดียวกัน ผู้ตัดสินต้องรู้วิชาของโค้ช หรือวิชาฝึกสอน ทำให้เราประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าได้ว่าเกมแต่ละเกมจะออกมาในรูปแบบไหน นี่คือสิ่งสำคัญในการพัฒนาผู้ตัดสิน ซึ่งนายกสมาคมฯ จะสรรหาผู้ตัดสินที่มีความฟิตทางร่างกาย พัฒนากติกา มารยาท รวมถึงวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ตัดสินของสมาคมฯ เราได้รับความช่วยเหลือจากฟีฟ่า และ เอเอฟซี จัดหาวิทยากรเข้ามาช่วยฝึกซ้อมในการพัฒนาผู้ตัดสิน ในอนาคตเราจะมีสถาบันพัฒนาผู้ตัดสินภายใต้การควบคุมสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย"
"ก็ขอกราบขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่าน ที่นำเสนอการแข่งขันฤดูกาลนี้จะเห็นได้ว่า กีฬาฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมของอนาคตของชาติก็คือเด็กนักเรียน และ เยาวชน กีฬาฟุตบอลจะสามารถสร้างอนาคตที่ดี มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ ส่วนประกอบการแข่งขันไม่ได้มีแค่นักฟุตบอล แต่ยังมีเรื่องธุรกิจการแต่งกายและเรื่องอื่น ทุกฝ่ายต้องการสนับสนุนให้ไปถึงระดับนานาชาติ โดยคณะผู้บริหารสมาคมเพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถพาทีมไปถึงจุดความหวังได้ ทางสมาคมฯพร้อมรับฟังข้อคิดเห็น เพราะมันคือการสะท้อนของคุณภาพ การพัฒนากีฬาฟุตบอล ว่าจะเป็นไปตามที่สังคมคาดหวังหรือไม่ คำชมหรือคำติเตือนต่างๆเราพร้อมที่จะนำไปปรับปรุง และพัฒนาสมาคมฯ ขึ้นมา"
"ในปีนี้ เรื่องผู้ตัดสินต่างชาติ เราเคยทดลองมาแล้ว และต้องใช้เงินถึงหกแสนบาทต่อหนึ่งแมตช์ ในทางกลับกัน เงินจำนวนนี้เราสามารถนำไปพัฒนาผู้ตัดสินของเราได้ และองค์ความรู้ก็จะอยู่ในประเทศไทย เราไม่ได้ปฏิเสธความสามารถผู้ตัดสินไทย แต่ด้วยความตั้งใจกับแมตช์ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้ตัดสินเราน้อยลงไปทุกที หลายคนโดนลงโทษห้ามทำหน้าที่ ทำให้ผู้ตัดสินเราเหลือน้อย สิ่งนี้คือสิ่งที่สมาคมฯ ตั้งใจจะสร้างผู้ตัดสินรุ่นใหม่ ที่มีความพร้อมทางด้านความรู้ ความเข้าใจในการควบคุมการแข่งขัน เพื่อเป็นผู้ตัดสินระดับฟีฟ่า อีลิต เราต้องสร้างขึ้นมา การทุ่มจ้างผู้ตัดสินไม่ใช่การแก้ไขปัญหาระยะยาว ทางสมาคมฯไม่ปรารถนาที่จะใช้วิธีจะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์"
Comments
There are no comments